นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ด้วยมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งต่อไปเรียกว่า “มูลนิธิฯ”ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และการคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ จึงออกนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้การเก็บรวบรวม การเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผยอยู่บนหลัก
การและความชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้ง มูลนิธิฯให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลจึงได้ทำการประกาศนโยบายซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. นโยบายการเคารพสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและชอบด้วยกฎหมาย

มูลนิธิฯ เคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัว และให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคล มูลนิธิฯ มีนโยบายไม่รวบรวมข้อมูล เว้นแต่จะได้รับความยินยอม หรือมีกฎหมายให้รวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ซึ่งได้แก่

– เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสม
เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
– เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
– เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
– เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
– เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
– เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
– เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายการบัญชี กฎหมายสรรพากร กฎหมายพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมาย
อาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น

อีกทั้งในการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลมูลนิธิฯ มีนโยบายให้การดำเนินการมีฐานรองรับเพื่อให้เกิดความชอบธรรมในการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแจ้งรายละเอียดความเป็นส่วนตัว
(Privacy Notice)

2. นโยบายเก็บรวบรวมข้อมูลเท่าที่จำเป็น
มูลนิธิฯ มีนโยบายการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น หากมีทางเลือกอื่น หรือไม่มีกฎหมายบังคับให้ดำเนินการมูลนิธิฯ จะไม่รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

3. นโยบายเคร่งครัดวัตถุประสงค์ ในการรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ มีนโยบายที่ให้ความสำคัญกับวัตถุประสงค์ในการรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น หากมูลนิธิฯ มีความจำเป็น
ที่จะใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ต่างไปจากวัตถุประสงค์ที่ได้รับความยินยอม มูลนิธิฯดำเนินการขอความยินยอมใหม่ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดให้ดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความ
ยินยอม

4. นโยบายความโปร่งใส

มูลนิธิฯ มีนโยบายแจ้งรายละเอียดความเป็นส่วนตัว หรือ Privacy Notice ในทุกกรณีไม่ว่าจะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอ้างอิงฐานใดก็ตาม

5. นโยบายความรับผิดชอบ

มูลนิธิฯ มีนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกรณีเกิดการรั่วไหลของข้อมูล โดยมูลนิธิฯ ได้มีการกำหนดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และพนักงานต้องปฎิ
บัติตามกฎหมาย และร่วมกันปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

6. นโยบายปลอดภัยและลับ

มูลนิธิฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีนโยบายรับผิดชอบต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความควบคุม โดยธำรงไว้ซึ่งความลับของข้อมูลส่วนบุคคล และจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคง
ปลอดภัยทั้งทางด้านบริหาร คือมีกฎระเบียบต่าง ๆ มากำกับการดำเนินงานของพนักงาน ด้านกายภาพ คือมีพื้นที่เก็บข้อมูล ตู้ อุปกรณ์ ห้องเก็บข้อมูล มีกล้อง CCTV มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ และ
ด้านเทคนิค คือ มีการนำฮาร์ดแวร์ และซอร์ฟแวร์มาปรับใช้เพื่อป้องกันการโจมตีจากผู้บุกรุก

7. นโยบายไม่เก็บข้อมูลนานเกินจำเป็น

มูลนิธิฯ มีนโยบายการไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่นานเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ หรือกฎหมาย หากพ้นระยะเวลาการจัดเก็บ มูลนิธิฯ จะลบข้อมูล หรือทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลนิรนาม