Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

วันออกพรรษาที่บ้านเฮา “ประเพณีไหลเรือไฟ” จ.นครพนม

        ประเพณีไหลเรือไฟเป็นประเพณีที่ชาวนครพนมภาคภูมิใจ ถือเป็นประเพณีที่บรรพบุรุษได้ยึดถือปฏิบัติกันมานานตั้งแต่โบราณ โดยสันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยศรีโคตรบูร ที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองในอดีตเป็นอาณาบริเวณสองฟากฝั่งแม่น้ำโขง โดยมีความเชื่อแต่โบราณว่าเป็นการบูชารอย พระพุทธบาทการสักการะท้าวพกาพรหม การบวงสรวงพระธาตุจุฬามณี การเอาไฟไปเผาความทุกข์และบูชาพระพุทธเจ้า เป็นประเพณีโบราณของชาวอีสาน โดยเฉพาะผู้อยู่อาศัยในแถบลุ่มแม่น้ำโขง เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูต่อแม่น้ำโขงที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวอีสาน การขอขมาและบูชาพระแม่คงคา ตลอดจนการบูชาพญานาค การขอฝน และการสะเดาะเคราะห์ เผาความทุกข์ให้ลอยไปตามสายน้ำให้หมดทุกข์หมดโศก
 
        ประเพณีการไหลเรือไฟบางที่เรียกว่า ” ล่องเรือไฟ ” ” ลอยเรือไฟ ” หรือ “ปล่อยเรือไฟ” ซึ่งเป็นลักษณะที่เรือไฟเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ เรือไฟหรือ “เฮือไฟ” หมายถึง เรือที่ทำด้วยท่อนกล้วย ไม้ไผ่หรือวัสดุที่ลอยน้ำ มีโครงสร้างเป็นรูปต่าง ๆ ตามต้องการ เมื่อจุดไฟใส่โครงสร้าง เปลวไฟจะลุก เป็นรูปร่างตามโครงสร้างนั้น งานประเพณีไหลเรือไฟ นิยมปฏิบัติกันในเทศกาล ออกพรรษาในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี ในแต่ละปี จังหวัดนครพนมทุกอำเภอจะมีการทำเรือไฟนำมาประกวดทั้งประเภทสวยงามและประเภทความคิดสร้างสรรค์ มีการออกแบบลวดลายให้เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่สอดแทรกเรื่องราวของวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมและความเชื่อของคนในท้องถิ่นเอาไว้ รวมถึงการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทั้งมีการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาเสริมในการประดับตกแต่งเรือไฟ เพื่อให้มีความโดดเด่นสวยงาม
 
        นายพนม พุทธาผา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโพนบก เล่าว่า “ทุก ๆ ปี ผมและสมาชิกคนเรือไฟ ได้รับเกียรติจากทางอำเภอให้เป็นผู้ออกแบบเรือไฟของชาวอำเภอโพนสวรรค์ ผมระดมกำลังทั้งความคิดและกำลังพลจากทีมงานสร้างเรือไฟ เพื่อนำเสนอเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของชาวอำเภอโพนสวรรค์ ออกสู่สายตานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติในงานไหลเรือไฟปี 2566 นี้ ผมเองปลูกฝังเด็กนักเรียนตั้งแต่การสอดแทรกวันสำคัญทางพระพุทธศาสนารวมถึงประเพณีสำคัญ ของจังหวัดนครพนมในวิชาสังคมศึกษาเพื่อให้เด็กนักเรียนได้ซึมซับประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามให้สืบทอดสู่รุ่นต่อไป ”
        อำเภอโพนสวรรค์ เป็นอีกอำเภอหนึ่งจากทั้งหมด 12 อำเภอ ของจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ทำงานของโครงการพัฒนาเด็กซี.ซี.เอฟ.จังหวัดนครพนม ปัจจุบันมีการช่วยเหลือเด็กในจังหวัดนครพนม จำนวน 1,364คน และมีเด็กที่อยู่ในอำเภอโพนสวรรค์ จำนวน 788 คน “น้องกาย” เป็นเด็กคนในโครงการฯ ที่ได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในการเข้าร่วมประเพณีไหลเรือไฟ ปัจจุบัน “น้องกาย” เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนโพนสวรรค์ราษฎร์พัฒนา เป็นเด็กกล้าแสดงออกและชอบทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียน อีกทั้งยังเป็นแกนนำเด็กซี.ซี.เอฟ. เขตบริการบ้านโพนบก ช่วยงานโครงการ ฯ และงานในชุมชมด้วยจิตอาสาสม่ำเสมอ
 
        น้องกายเล่าว่า “ประเพณีไหลเรือไฟเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดนครพนม ทุกปีผมมักมีโอกาสได้ร่วมแสดงดนตรีในนามของโรงเรียน และช่วยคนในชุมชนตัดลำไม้ไผ่ ลำเลียงลำไม้ไผ่จากหมู่บ้านต่างๆ ในตำบล เก็บกระป๋องกาแฟเพื่อนำมาเป็นตะเกียง ในวันไหลเรือไฟผมได้มีส่วนช่วยเติมน้ำมันและจุดไฟตะเกียงรอบเรือไฟ ผมดีใจและภูมิใจมากครับที่ได้เป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ ทำให้เรือไฟของชาวอำเภอโพนสวรรค์ไหลออกสู่ลำน้ำโขงอวดสายตาประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวให้รู้จักวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมและความเชื่อของชาวอำเภอโพนสวรรค์ผ่านเรือไฟลำนี้ ผมมาด้วยจิตอาสาและจะทำต่อไปเรื่อย ๆในทุกปีครับ” น้องกายกล่าวทิ้งท้ายด้วยความภาคภูมิใจ

แชร์เนื้อหา :

ข่าวสารอื่นๆ