คำถามที่พบบ่อย FAQ

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก่อตั้งขึ้นโดย Christian Children’s Fund เมื่อปี 2500 ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยให้การช่วยเหลือเด็กไทยผ่านสำนักงานในฮ่องกง และได้จดทะเบียนเป็นมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจนซี.ซี.เอฟฯ เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 2518 และเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2537 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับไว้ในพระราชูปถัมภ์ และทรงมีพระมหากรุณาพระราชทานชื่อใหม่ให้แก่มูลนิธิว่า “ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ” เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 โดยปัจจุบัน CCF ย่อมาจาก Community Children’s Funds

ช่วยเหลือเด็กผ่านโครงการอุปการะเด็กซึ่งเป็นการช่วยเหลือเด็กแต่ละรายอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน คือ

  • ช่วยให้เด็กมีกินครบ 3 มื้อและถูกหลักโภชนาการมีโครงการอาหารเช้าเพื่อน้องซึ่งช่วยให้เด็กได้กินอาหารเช้าก่อนเข้าเรียน เมื่อท้องอิ่มเด็กก็จะเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีโครงการคลังอาหารในครัวเรือน คือการมอบเป็ดไก่ผักสวนครัวให้แก่บางครอบครัว เพื่อให้มีแหล่งอาหารในบ้าน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายรายวัน ถ้ามีไข่หรือผักเหลือก็นำไปขายเป็นรายได้เสริม
  • ช่วยดูแลสุขภาพเด็กให้แข็งแรง เด็กเล็กก่อน 6 ปีจะได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีมอบของใช้ประจำวันสำหรับเด็กรักษาความสะอาดของร่างกาย (ผ้าเช็ดตัว สบู่ แป้ง หวี แชมพู แปรงและยาสีฟัน) มอบเครื่องกันหนาว ชุดกีฬา มุ้ง ผ้าห่ม
  • เด็กวัยเรียนจะได้ทุนช่วยเหลือการศึกษาปีละครั้ง
  • ช่วยซ่อมแซมที่พักอาศัยของเด็กให้มั่นคงขึ้น หรือมิดชิดปลอดภัยขึ้น
  • มอบอุปกรณ์การสอน มอบหนังสือดีๆ ให้แก่โรงเรียน ปรับปรุงห้องสมุด ห้องน้ำ โรงอาหาร สนามกีฬาของ รร. เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มที่
  • เด็กโตจะได้รับโอกาสให้ไปค่ายเสริมหลักสูตรพัฒนาบุคลิกภาพ พัฒนาภาวะผู้นำ และพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ตามความสนใจของเด็ก เด็กวัยรุ่นจะได้เรียนรู้ภัยของเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด และอันตรายของการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร

กิจกรรมที่หลากหลายภายใต้โครงการอุปการะนี้ มีประโยชน์คือ

  • ช่วยให้เด็กยากจนที่ขาดแคลนสิ่งจำเป็นพื้นฐานประจำวัน ได้มีสุขภาพแข็งแรงขึ้น มีความพร้อมในการศึกษาเล่าเรียนมากขึ้น คือ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
  • ทำให้เด็กได้รู้จัก “ความรักความเมตตาจากผู้อุปการะ” เด็กได้เห็นคุณค่าของตนเอง
  • ช่วยปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวเด็กให้ดีขึ้น
  • ส่งเสริมให้ชุมชนเห็นความสำคัญของ “การดูแลเด็กอย่างมีคุณภาพ” ระดมทรัพยากรของชุมชนมาเอื้ออาทรต่อครอบครัวที่ยังด้อยโอกาส (เช่น มูลนิธิช่วยประสานงานกับอบต.ของบประมาณมาซ่อมแซมบ้านของเด็ก)
  • มูลนิธิช่วยเหลือเด็กยากไร้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 24 ปี
  • เด็กเหล่านี้มาจากครอบครัวที่ยากจน เช่น พ่อแม่ขาดที่ดินทำกิน หรือมีลูกมาก หรือเป็นเด็กพิการ หรือเป็นเด็กที่อยู่กับผู้เลี้ยงดูที่แก่ชราและช่วยตัวเองไม่ได้

ปัญหาที่เด็กยากไร้เผชิญอยู่ ได้แก่

  • กินไม่อิ่ม (ไม่มีอาหารกินครบสามมื้อ หรือ มีกินบ้าง แต่กินไม่ถูกหลักโภชนาการ) ส่งผลให้ร่างกายแคระแกร็นกว่าวัย เป็นพยาธิ ฟันผุ ร่างกายไม่แข็งแรง
  • นอนไม่อุ่น (ที่พักซอมซ่อมาก เป็นกระท่อมมุงจาก ฝาบ้านทำด้วยกระดาษอัดหรือเศษไม้ปุปะ หลังคารั่ว ส่วนใหญ่เป็นห้องเดียวอยู่กัน 5-6 คน ไม่มีห้องน้ำ ห้องส้วม หรือ ถ้ามีก็ไม่มิดชิด และไม่ปลอดภัย)
  • เด็กไม่ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพเพราะส่วนใหญ่ไปรร.ขนาดเล็กที่อยู่ใกล้บ้าน รร.ขาดแคลนโต๊ะเก้าอี้ มีครูไม่ครบชั้นเรียน เด็กหลายคนต้องเดิน 5-6 กม.ต่อวันเพื่อไปรร. ถ้าฝนตกหนักอาจต้องขาดเรียน บางรายอาจต้องไปช่วยพ่อแม่ทำงานในไร่นา ต้องขาดเรียน บางคนต้องอยู่บ้านเลี้ยงน้อง ทำให้ไปรร.ไม่ต่อเนื่อง เด็กไม่มีคนสอนการบ้านเพราะพ่อแม่หรือตายายเองก็อ่านหนังสือไม่ออก หรือมัวแต่ทำมาหากิน
  • เด็กไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ที่ให้กำเนิด อาจเพราะพ่อแม่แยกทางกันแต่เล็ก หรือฝ่ายหนึ่งแต่งงานใหม่และมีลูกใหม่ ไม่ส่งเสียเด็กหรือไม่เคยมาเยี่ยมเด็กเลย ทำให้เป็นเด็กขาดรัก ขาดความอบอุ่นบางรายเด็กเริ่มโตเป็นสาว แต่อยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงในกระท่อมหลังเดียวกันไม่มีฝากั้น ก็มีความเสี่ยงที่อาจถูกละเมิดทางเพศ
  • เด็กที่อยู่กับตายายที่แก่ชรามากและไม่มีรายได้จากอาชีพใดๆ ทั้งครอบครัวอยู่ได้ด้วยเบี้ยยังชีพเล็กๆน้อยๆ เดือนละ 500 บาท เด็กบางรายกลับต้องเลี้ยงดูปู่ย่าตายายที่เจ็บป่วยเด็กหญิงบางรายอยู่กับแม่ที่สติไม่สมประกอบ ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ เด็กเองก็มีพัฒนาการช้ากว่าวัยและเสี่ยงที่จะถูกละเมิดทางเพศ
  • เด็กพิการแต่กำเนิดหรือมีโรคเรื้อรัง เช่น เป็นทาลัสซีเมียต้องเปลี่ยนเลือดทุกเดือน เป็นเด็กพิการซ้ำซ้อน ต้องนอนอยู่กับที่ รับอาหารเหลวทางสายยาง เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเป็นมะเร็งจนต้องตัดขา เป็นต้น
  • เด็กที่ไม่มีทะเบียนเกิดและไม่ได้รับสัญชาติไทย ตามตะเข็บชายแดนจะมีเด็กเหล่านี้อยู่มาก ทำให้ไม่ได้รับบริการด้านสาธารณสุขครบถ้วนตั้งแต่แรกเกิด หลายรายไม่มีที่เรียนต่อหลังจากจบประถมแล้ว
  • ช่วยเหลือเด็กทุกศาสนา โดยไม่มีการแบ่งแยก เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ หรือศาสนา เช่น โครงการช่วยเหลือเด็กๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องกำพร้า เพราะพ่อหรือแม่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ซึ่งมีเด็กๆ มุสลิมเป็นส่วนใหญ่ หรือในภาคเหนือก็ช่วยเหลือเด็กชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ รวมทั้งเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยด้วย

พื้นที่ดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. 35 โครงการ ใน 34 จังหวัดทั่วประเทศ

เด็กในอุปการะรวมจำนวนทั้งสิ้น 42,000 คน

(ข้อมูล ณ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565)

การที่สาธารณชนหรือบุคคลต่างๆ บริจาคเงินผ่านมูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ขาดแคลนให้ได้รับโอกาสในการมีชีวิตที่ดีขึ้น ผู้อุปการะจะอุปการะเด็กหนึ่งคนหรือมากกว่าเป็นเวลานานเท่าใดก็ได้ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้อุปการะ  เงินที่ท่านส่งมาเพื่ออุปการะเด็กจะนำไปใช้ผ่านกิจกรรมต่างๆ ตามความเหมาะสมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กๆ ได้แก่ สนับสนุนกิจกรรมด้านโภชนาการ สุขอนามัย น้ำดื่มสะอาด การศึกษา ค่ายานพาหนะไปโรงเรียน การพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะชีวิต เด็กในอุปการะของท่านจะเกิดความรู้สึกภูมิใจว่า ตนได้รับความรักและความห่วงใย จากผู้มีจิตเมตตา อันจะนำไปสู่การเห็นคุณค่าในตัวเอง และเกิดความมั่นใจในตัวเองที่พร้อมที่จะก้าวต่อไป สู่อนาคตที่สดใส

          เงินบริจาคของท่านจะนำไปรวมกับเงินบริจาคของผู้อุปการะเด็กท่านอื่นๆ ในพื้นที่โครงการเดียวกัน เพื่อนำไปให้แก่โครงการช่วยเหลือและพัฒนาเด็กที่ดำเนินการอยู่ในชุมชนที่เด็กอาศัยอยู่

“เงินที่ท่านอุปการะเด็กเดือนละ 600 บาทนั้น เราไม่ได้นำเงินสด 600 บาท ไปให้เด็กโดยตรง เพราะหากทำเช่นนั้นก็จะเกิดอันตราย ประการแรกเด็กเล็ก 2 ขวบ 5 ขวบ 10 ขวบ ยังไม่รู้จักค่าของเงิน และยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะนำเงินไปใช้อย่างไรดีให้คุ้มค่า ความกังวลประการที่ 2 คือ บางทีครอบครัวเด็ก ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเขาอาจจะมีปัญหาเรื่องปากท้อง หากได้รับเงินสดไป ก็อาจจะนำเงินนั้นไปแก้ไขปัญหาปากท้องเฉพาะหน้าของเขาก่อน โดยที่อาจจะนึกว่าเรื่องเด็กไปโรงเรียนนั้น เอาไว้ก่อนก็ได้ โรงเรียนไม่หายไปไหน ไปโรงเรียนไปวันไหนก็ได้

          ด้วยความกังวลทั้ง 2 เรื่องนี้ ทำให้มูลนิธิทั้งหลาย รวมทั้ง มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. หลีกเลี่ยงที่จะนำเงินสดไปแจกเด็กโดยตรง ที่สำคัญอีกประการ การแจกเงินเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม ถึงเรามองในแง่ดีว่าเป็นความอยากจะช่วยเหลือ แต่ในแง่ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์นั้น เราคิดว่าอาจจะเป็นการละเมิดความเป็นมนุษย์ของเด็กรึเปล่า ให้เงินสดๆ ไป ยิ่งทำให้เด็กงอมืองอเท้า รอรับแต่เงินหรือเปล่า

          ดังนั้นเงินบริจาค เงินอุปการะเด็ก เราจึงนำมารวมกันเป็นก้อนเดียวกันแล้วบริหารจัดการ การทำเช่นนี้ทำให้เด็กๆ ได้รับอานิสงส์มากกว่า ตัวอย่างเช่น มูลนิธิฯ มีเด็กประมาณ 58,000 คน มีท่านผู้อุปการะประมาณ 27,000 คน ยิ่งช่วงนี้สถานการณ์ต่างๆ รวมถึงเศรษฐกิจไม่ค่อยจะสู้ดี แต่ละเดือนมีการยกเลิกอุปการะเด็ก 500-600 คน ฉะนั้นเด็กๆ ที่ไม่มีผู้อุปการะก็ได้รับอานิสงส์จากเงินของท่านด้วย แล้วที่ว่าการบริหารจัดการ เช่น ชุดวอร์มกันหนาวที่น้องๆ ได้ใส่ ถ้าเรานำเงินไปให้ครอบครัวไปซื้อเอง เขาก็จะซื้อในราคาปลีก แต่เรานำไปบริหารจัดการสั่งตัดเย็บแบบหลายๆ ตัวก็จะได้ในราคาพิเศษ แล้วเด็กก็จะได้เสื้อกันหนาวกันทั่วทุกคน แต่ละปีเด็กของเราจะได้ทุนการศึกษา แต่ละคนจะได้มากน้อยแตกต่างกันไปตามระดับชั้นเรียน ชั้นมัธยมฯ จะได้มากกว่าชั้นอนุบาล เป็นต้น แต่ที่สำคัญกิจกรรมต่างๆ ที่เราทำล้วนเป็นกิจกรรมที่ใช้เงินบริจาคของท่านในการจัดทำทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ค่ายวิทยาศาสตร์ ค่ายภาษาอังกฤษ ค่ายพัฒนาศักยภาพต่างๆ ค่ายศิลปะ วาดรูป ฯลฯ เป็นเงินบริจาคของท่านนี่แหละที่เรานำมาใช้ซื้อกระดาษ, สี, จ่ายค่าวิทยากร ค่ารถ อีกทั้งค่าเดินทางของเด็กๆ ค่าอาหาร ล้วนแต่ต้องอาศัยเงินที่ท่านบริจาคมาทั้งสิ้น

          ในบางครั้งก็อาจจะมีความเข้าใจผิด ถ้าไปถามเด็กเล็กๆ ว่า หนูได้อะไรจาก มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. บ้าง? เด็กตอบไม่ถูกหรอกค่ะ ยิ่งถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ด้วย แต่ถ้าเป็นเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย ก็สามารถตอบได้ว่า ได้ทุนการศึกษา ได้ชุดวอร์ม แต่อย่างไรก็ตามเด็กก็จะรู้ในสิ่งที่เกี่ยวข้องหรือเกิดขึ้นกับตัวเขาเองเท่านั้น เช่น ถ้ามีการจัดค่ายอยู่อีกอำเภอหนึ่ง แล้วเด็กคนนี้ไม่ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรม เด็กคนนี้ก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามีค่ายกิจกรรมนี้อยู่ หรือว่าท่านไปสอบถามเด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมค่ายเพียงอย่างเดียว เด็กคนนี้ก็จะรู้เกี่ยวกับค่ายอย่างเดียว ก็จะไม่รู้ว่า มูลนิธิฯ ได้ให้คอมพิวเตอร์ 4 เครื่องกับโรงเรียนนี้ หรือมอบหนังสือสมุดจำนวนเท่านี้เล่ม จำนวนเงินกี่บาทๆ แก่โรงเรียนนั้น หรือมูลนิธิฯ จัดโครงการอาหารเช้าเพื่อน้องในชุมชนนั้นชุมชนนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะไปโทษว่าเด็กว่าให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง แต่เด็กเขาไม่รู้ทั้งหมด หากท่านประสงค์จะทราบรายละเอียดต่างๆ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จะชี้แจงกับท่านได้อย่างละเอียดมากกว่า”

มูลนิธิฯ ไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการอุปการะเด็ก ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้อุปการะเอง แต่ขอเรียนว่า การช่วยเหลือเด็กให้ได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานที่เหมาะสม ได้รับการศึกษาตามความสามารถของเด็ก เพื่อสร้างรากฐานให้เขาสามารถช่วยเหลือตัวเอง เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศชาตินั้น ต้องใช้เวลา ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจึงจะช่วยให้การพัฒนาเด็กเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ

ขอความกรุณาให้ท่านโปรดเมตตากับเด็กทุกรายโดยเท่าเทียมกัน เด็กที่กำลังรอคอยความเมตตาของท่านอยู่นั้น ล้วนประสบปัญหาทุกข์ยากในชีวิตที่หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว น้องแต่ละคนจึงควรจะได้รับโอกาสเหมือนๆ กันที่จะได้รับการอุ้มชูดูแล หากท่านมีความประสงค์เป็นพิเศษ โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ และเราจะพยายามตอบสนองความต้องการของท่านเท่าที่จะทำได้

บุญกุศลอันยิ่งใหญ่ที่ท่านได้อุปการะเด็กด้อยโอกาสในครั้งนี้จะช่วยส่งผลให้ท่านได้พบกับ “ความสุขใจ ความอิ่มใจ” และท่านจะได้รับ

คู่มือผู้อุปการะ พร้อมวิธีติดต่อกับเด็ก หรือการเยี่ยมเด็ก หรือส่งของขวัญให้เด็ก
รายละเอียดโครงการที่เด็กในอุปการะของท่านเข้าร่วมกิจกรรมและ เด็กจะบอกเล่าเรื่องราวชีวประวัติส่วนตน ให้ท่านรับทราบ
ใบเสร็จรับเงินจากการบริจาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อท่านในการใช้เป็นหลักฐานเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี
จดหมายขอบคุณจากมูลนิธิฯ
ท่านจะได้รับ “รายงานพัฒนาการของเด็กพร้อมภาพถ่ายล่าสุด” (ปีละครั้ง) ซึ่งจะมีข้อมูลว่าเงินบริจาคของท่านช่วยให้เด็กมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างไรบ้างในรอบปีที่ผ่าน
ท่านจะได้รับบัตรอวยพรวันขึ้นปีใหม่ และการติดต่อจากเด็กในอุปการะ
อย่างสม่ำเสมอ และจะได้รับรายงานประจำปีของมูลนิธิฯ
ส่วนที่เกี่ยวกับผู้อุปการะโดยตรง
ได้รับคู่มือผู้อุปการะพร้อมช่องทางในการติดต่อ การเยี่ยมและการส่งของขวัญให้เด็กในอุปการะ
ใบเสร็จรับเงินจากการบริจาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อท่านในการเป็นหลักฐานลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี
ได้รับจดหมายตอบขอบคุณผู้อุปการะจากมูลนิธิฯ
ได้รับบัตรอวยพรวันขึ้นปีใหม่จากเด็กในอุปการะทุกปี
ได้รับเอกสารรายงานผลการดำเนินงานประจำปีของมูลนิธิฯ ทุกปี
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับเด็กในอุปการะ
รายละเอียดโครงการที่เด็กในอุปการะของท่านเข้าร่วม
รับทราบเรื่องราวชีวประวัติจากการบอกเล่าของเด็กในอุปการะผ่านมาทางจดหมาย
รับทราบ “รายงานผลพัฒนาการของเด็กพร้อมภาพถ่ายของเด็กในปัจจุบัน” (ปีละครั้ง) เพื่อจะสะท้อนให้ท่านทราบว่าในรอบปีที่ผ่านมาเงินบริจาคของท่านได้ส่งผลให้เด็กในอุปการะได้รับ

ต้องเป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในจังหวัดและพื้นที่ที่มูลนิธิฯ ดำเนินการ โดยมีเกณฑ์การคัดเลือกดังนี้

เป็นเด็กที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 10 ปี โดยมูลนิธิจะดูให้ความช่วยเหลือเด็กจนถึงอายุ 18 ปีหรือจบการศึกษา
เป็นเด็กในครอบครัวที่ยากจนมาก
เป็นเด็กกำพร้า หรือ พิการ หรือ ขาดผู้เลี้ยงดู
ต้องไม่เป็นบุตร/หลาน ของเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.
ต้องไม่เป็นเด็กที่ได้รับความช่วยเหลือแบบมีผู้อุปการะจากหน่วยงานหรือองค์กรอื่น
ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานให้เข้าร่วมโครงการกับมูลนิธิและพร้อมที่จะร่วมกิจกรรมต่างๆ เป็นประจำ
ต้องไม่เป็นบุตรหลานของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือบุคคลที่มีรายได้ประจำ

เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่ที่อยู่ในโครงการของมูลนิธิฯ มักจะอยู่กับครอบครัวอยู่แล้ว แม้จะไม่ใช่บิดาหรือมารดา แต่เด็กก็ผูกพัน และยังต้องการอยู่กับครอบครัวที่คุ้นเคย เรียนเชิญท่านอุปการะผ่านมูลนิธิจะดีกว่า

มูลนิธิฯ ไม่ได้ดำเนินการในเรื่องนี้ แนะนำให้ท่านติดต่อกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศูนย์ประชาบดี โทร. 1300

สามารถช่วยเหลือเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าอุปการะเดือนละ 600 บาท โดยท่านสามารถให้เป็นของขวัญพิเศษตามวาระต่างๆ ได้ เช่น ปีใหม่ วันเกิด หรือเปิดเทอม หรือหากประสงค์จะให้เป็นของขวัญ ก็ส่งผ่านมูลนิธิฯ ได้ตามที่อยู่ (เลขที่ 9 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 8 แขวงหนองบอน เขตประเวศ.กทม.10250) หรือโทร 02-747-2600 

          ซึ่งใบเสร็จที่บริจาคเพิ่มเติมนี้สามารถลดหย่อนภาษีได้

ผู้อุปการะ 1 ท่าน จะอุปการะเด็กยากไร้กี่คนก็ได้ ตามความประสงค์ของท่านอาจเริ่มจากการอุปการะเด็ก 1 รายก่อน เมื่อพบว่าโครงการอุปการะเด็กนี้ช่วยเหลือเด็กได้จริงๆ ก็สามารถเพิ่มอุปการะเด็กรายที่ 2,3,4 ได้

          การอุปการะเด็กของท่านจะช่วยให้เด็กได้รับอาหารครบ 3 มื้อ มีน้ำสะอาดสำหรับดื่มและใช้สอย ได้รับการดูแลสุขภาพ มีพัฒนาการด้านต่างๆ อย่างที่ควรจะเป็น และที่สำคัญคือ ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่องจนถึงชั้นสูงสุดตามศักยภาพของเด็กแต่ละคนการอุปการะเด็กจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กด้อยโอกาสให้ดีขึ้น ความรักและความห่วงใยของท่านจะช่วยให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง อันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เด็กเติบโตเป็นคนดี

เยี่ยมได้ โดยติดต่อมาที่มูลนิธิฯ ส่วนกลางที่ 02-747-2600 เยี่ยมได้ 2 วิธี คือ ผู้อุปการะเดินทางไปพบเด็ก และให้เด็กเดินทางมาพบผู้อุปการะ โดยผู้อุปการะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น

          เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว มูลนิธิฯ จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าเยี่ยมของท่าน และจะรีบติดต่อกลับเพื่อแจ้งรายละเอียดให้ท่านทราบถึงขั้นตอนและกำหนดการเข้าเยี่ยมเด็กที่ชัดเจนต่อไป

โดยบัตรเครดิต หักบัญชีธนาคาร เช็ค ธนาณัติ โอนเงิน ผ่านสาขาธนาคาร  ATM/  CDM  /internet banking  /Mobile banking/ Edonation   บัญชีสำหรับโอนเงิน มีดังนี้

ธ.กรุงเทพ สาขาทองหล่อ เลขที่บัญชี 206-0-06709 -3
ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาลุมพินี เลขที่บัญชี 023-2-36703-2
ธ.กสิกรไทย สาขานานาเหนือ เลขที่บัญชี 063-2-17925-1
ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขาสุขุมวิท 35 เลขที่บัญชี 116-1-02597-6
ธ.กรุงไทย สาขานานาเหนือ เลขที่บัญชี 000-1-19765-7
ธ.ทหารไทยธนชาต สาขาอโศก เลขที่บัญชี 053-2-05681-9

เมื่อโอนแล้วขอความกรุณา ส่งสำเนาใบโอนเงินมาด้วย ทาง line  email  Facebook  แฟกซ์  ทางไปรษณีย์ 

หรือจะโทรมาแจ้งรายละเอียดการโอนเงินได้ที่เจ้าหน้าที่ 02-747-2600  (โดยเจ้าหน้าที่จะต้องขอรับ วันที่โอน ธนาคาร/สาขาที่โอน  เวลา ยอดเงิน เลขที่อ้างอิง) 

เนื่องจากรัฐบาลได้มีการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (พรบ.คุ้มครองเด็ก และพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ดังนั้น มูลนิธิฯ จึงมีความจำเป็นต้องปกปิดข้อมูลของเด็กและเยาวชนในอุปการะไว้ในชั้นความลับเพื่อให้เป็นไปตามหลักสากลว่าด้วยการคุ้มครองเด็กทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก  และปัจจุบันมีรายงานข่าวเรื่องเด็กถูกล่อลวงอยู่บ่อยๆ หรือบางครั้งอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดี แอบอ้างเป็นเด็กหรือครอบครัวเด็กมาหลอกลวงหาผลประโยชน์จากผู้อุปการะ

          หากท่านประสงค์จะติดต่อกับเด็กในอุปการะด้วยประการใดๆ ก็ตามขอให้ท่านได้โปรดติดต่อผ่านมาทางมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. โดยตรง เพราะเราได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้บริการท่านด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง

ท่านสามารถมอบสิ่งของหรือเขียนจดหมายให้เด็กในอุปการะของท่านได้โดยติดต่อผ่านทางมูลนิธิฯ ตามที่อยู่นี้

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ

เลขที่ 9 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 ซอย 8 แขวงหนองบอน เขตประเวศกรุงเทพฯ  10250 

          พร้อมทั้งระบุชื่อท่านและชื่อเด็กในอุปการะ หากมูลนิธิฯ ได้รับสิ่งของที่ท่านส่งมาแล้ว จะรีบดำเนินการส่งของให้เด็กของท่านตามความประสงค์ในทุกวันศุกร์  และหากเด็กได้รับสิ่งของแล้ว เด็กจะเขียนจดหมายขอบคุณตอบกลับมายังท่านต่อไป

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ได้รับอนุญาตจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ให้ทำการเรี่ยไรตามกฎหมาย มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ เป็นองค์การสาธารณกุศลลำดับที่ 171 ตามประกาศกระทรวงการคลัง เงินบริจาคของท่านสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี (ลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า)

หากต้องการอัปเดตหรือเปลี่ยนแปลงวิธีการชำระเงินของคุณ คุณสามารถโทรหาเราที่ 027472600 (ในช่วงเวลาทำการระหว่าง 8.00 – 16.30 น. หรือติดต่อทาง LINE  Facebook (messenger)  ส่งอีเมลหาเราที่ ccfthai@ccfthai.or.th  

          ส่งจดหมายมาที่ : มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ

เลขที่ 9 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 ซอย 8 แขวงหนองบอน เขตประเวศกรุงเทพฯ  10250

หากต้องการอัปเดตหรือเปลี่ยนแปลงวิธีการชำระเงินของคุณ คุณสามารถโทรหาเราที่ 027472600 (ในช่วงเวลาทำการระหว่าง 8.00 – 16.30 น. หรือติดต่อทาง LINE  Facebook (messenger)  ส่งอีเมลหาเราที่ ccfthai@ccfthai.or.th  

          ส่งจดหมายมาที่ : มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ

เลขที่ 9 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 ซอย 8 แขวงหนองบอน เขตประเวศกรุงเทพฯ  10250

เราเข้าใจดีว่าสถานการณ์ทางการเงินและส่วนบุคคลเปลี่ยนไป หากคุณต้องการยกเลิก โปรดแจ้งให้เราทราบ แล้วเราจะหาผู้สนับสนุนรายอื่นให้เด็กกับที่ถูกยกเลิก และเด็กๆจะได้รับการดูแลและได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ เช่นเดิม